Skip to Content

คำแนะนำพิเศษจากเซเรน่า

คู่มือแนะนำการเติบโตตามระดับพลังต่อสู้จาก CM เซเรน่า (จู่โจม: ต้นไม้แห่งวีรชน)
CM เซเรน่า 06/16/2023

 

สวัสดีจากทีมงาน <Summoners War: Chronicles> ค่ะ!

 

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาเราได้ทำการเพิ่มจู่โจม: ต้นไม้แห่งวีรชนเข้ามาแล้วนะคะ

 

ซัมมอนเนอร์หลาย ๆ คนอาจจะเคลียร์แมพใหม่นี้ได้ง่าย ๆ

แต่ก็ยังมีซัมมอนเนอร์อีกมากที่โค่นฟาราเคลสุดโหดนี่ไม่ได้เสียที!

 

วันนี้เราก็เลยเตรียมคู่มือแนะนำวิธีเคลียร์ต้นไม้แห่งวีรชนมาฝากกันค่ะ ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!

 


 

▌คู่มือแนะนำการเติบโตตามระดับพลังต่อสู้จาก CM เซเรน่า (จู่โจม: ต้นไม้แห่งวีรชน)

 

1. ข้อมูลทั่วไปของต้นไม้แห่งวีรชน

- คุณสามารถเข้าไปเล่นได้เมื่อรับเควสต์เริ่มต้นของต้นไม้แห่งวีรชนในเอย่าแล้ว

- ซัมมอนเนอร์ 3 คนสามารถจัดปาร์ตี้เข้าไปเล่นต้นไม้แห่งวีรชนได้

- สามารถเข้าเล่นต้นไม้แห่งวีรชนได้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (รีชาร์จเพิ่มได้ 3 ครั้ง)

- พลังต่อสู้ที่แนะนำคือ 502,900 ขึ้นไป

 

2. ข้อมูลทั่วไปของบอสฟาราเคล

- ฟาราเคลเป็นบอสประเภทนักรบที่สามารถเปลี่ยนเป็นธาตุไฟ น้ำ ลม และไร้ธาตุได้

- ฟาราเคลจะเปลี่ยนธาตุระหว่างต่อสู้ และสกิลที่ใช้ก็จะเปลี่ยนแปลงตามธาตุ

- เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น จะมีต้นกำเนิดแห่งไฟ น้ำ และลมปรากฏขึ้นมา 

ต้องทำลายต้นกำเนิดธาตุที่เสียเปรียบธาตุของบอส จึงจะสามารถผ่านไปยังขั้นถัดไปได้

- หลังจากทำลายต้นกำเนิดอย่างต่อเนื่องแล้ว จะมีพอร์ทัลปรากฏขึ้นมา 3 จุด กำจัดบอสกลางทั้ง 3 ตัวเพื่อไปยังขั้นถัดไป

- หลังจากฟาราเคลเปลี่ยนเป็นบอสไร้ธาตุแล้ว มันจะใช้สกิลของแต่ละธาตุที่เคยใช้ และมีบัฟดูด DMG ได้ 100%

 

3. ข้อมูลสกิลของบอสฟาราเคล

① สกิลหลักแยกตามธาตุ

▶ ธาตุไฟ

[Heat Haze - ติดตัว]

- ลด DMG ที่ได้รับ และเพิ่มความต้านทาน CRI

- นอกจากนี้ ฟาราเคลจะมีภูมิคุ้มกันต่อการลด MOV SPD

 

[Origin Destroyer - Mortality]

- สุ่มซัมมอนเนอร์ฝ่ายศัตรูมาเฝ้ามองนานเท่าระยะเวลาที่กำหนด จากนั้นจะโจมตีเป้าหมาย

- ปลดเอฟเฟกต์เสริมพลังทุกอันของศัตรูในขอบเขต ทำ DMG แบบตายตัวตามสัดส่วน HP สูงสุดของเป้าหมาย และทำให้ถูกเผาไหม้

- การโจมตีนี้สามารถโจมตีต้นกำเนิดแห่งไฟ น้ำ และลม และสามารถทำลายต้นกำเนิดแห่งลมได้

 

[Stormy Blast]

- โจมตีศัตรูในขอบเขตและทำให้ถูกเผาไหม้

- ทำ DMG เพิ่มขึ้นตามจำนวนเป้าหมายที่โจมตีโดน

 

[Inferno]

- พุ่งใส่เป้าหมายอย่างรวดเร็วเพื่อทำ DMG ใส่ศัตรูในเส้นทางและลด DEF ของศัตรู

- เพิ่ม MOV SPD ให้ตนเอง

- จะมีแนวเพลิงหลงเหลือบนเส้นทางที่ผ่าน ศัตรูที่อยู่บนแนวเพลิงจะได้รับ DMG แบบตายตัวตามสัดส่วน HP สูงสุดของเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

- การโจมตีนี้จะถูกใช้ติดต่อกัน 2 หรือ 3 ครั้ง

 

▶ ธาตุน้ำ

[Drain - ติดตัว]

- ลด DMG ที่ได้รับ และเมื่อโจมตีโดน จะฟื้นฟู HP ของตนตามสัดส่วน DMG ที่ทำได้

- นอกจากนี้ ฟาราเคลจะมีภูมิคุ้มกันต่อการลด MOV SPD

 

[Absorb]

- ปลดเอฟเฟกต์ลดพลังทุกอันที่ตนมี จากนั้นจะดูดซับการโจมตีของศัตรูตามระยะเวลาที่กำหนด

- ระหว่างที่ดูดซับจะมีภูมิคุ้มกันต่อเอฟเฟกต์ลดพลัง และเมื่อดูดซับการโจมตีถึงจำนวนครั้งที่กำหนด 

จะทำ DMG แบบตายตัวตามสัดส่วน HP สูงสุดของเป้าหมายใส่ศัตรูรอบๆ ทุกตัวและน็อกศัตรูลง

- หากการดูดซับล้มเหลว ฟาราเคลจะโซเซนานตามระยะเวลาที่กำหนด

 

[Recharge]

- ปลดเอฟเฟกต์ลดพลังทุกอันที่ตนมี จากนั้นจะชาร์จพลังของตนตามระยะเวลาที่กำหนด

- ระหว่างที่ชาร์จพลังจะมีภูมิคุ้มกันต่อเอฟเฟกต์ลดพลัง และหากถูกโจมตีถึงจำนวนครั้งที่กำหนด การชาร์จพลังจะล้มเหลวและฟาราเคลจะโซเซ 

- หากชาร์จพลังสำเร็จ จะปลดปล่อยพลังเพื่อทำ DMG แบบตายตัวตามสัดส่วน HP สูงสุดของเป้าหมายใส่ศัตรูรอบๆ ทุกตัวและน็อกศัตรูลง

 

[Shockwave]

- บอกขอบเขตการโจมตีล่วงหน้าติดต่อกัน 3 ครั้ง จากนั้นจะทำ DMG ใส่ศัตรูในขอบเขตเหล่านั้นติดต่อกัน พร้อมทำให้พวกมันถูกน้ำแข็งกัด

 

[Origin Destroyer - Blue Hole]

- ร่ายต้นกำเนิดการกัดกร่อนใส่ซัมมอนเนอร์ฝั่งศัตรูสูงสุด 2 ตัว

- ต้นกำเนิดการกัดกร่อนจะหายไปเมื่อครบเวลาที่กำหนด และจะสร้างหลุมสีฟ้าขึ้นที่ตำแหน่งของเป้าหมายตอนที่หายไป

 

- ศัตรูที่อยู่บนหลุมสีฟ้าจะได้รับ DMG ตามสัดส่วน HP สูงสุดอย่างต่อเนื่อง ถูกน้ำแข็งกัด และมานาจะลดลง

- นอกจากนี้ การโจมตีนี้สามารถโจมตีต้นกำเนิดแห่งไฟ น้ำ และลม และสามารถทำลายต้นกำเนิดแห่งไฟได้

 

▶ ธาตุลม

[Thunderbolt - ติดตัว]

- ลด DMG ที่ได้รับ และเมื่อโจมตีโดน จะปลดเอฟเฟกต์เสริมพลัง 1 อันของเป้าหมายและทำให้ถูกไฟช็อต

- นอกจากนี้ ฟาราเคลจะมีภูมิคุ้มกันต่อการลด MOV SPD

 

[Waterspout] 

- สร้างพายุน้ำหลายอันขึ้นในบริเวณรอบๆ เพื่อระเบิดเอฟเฟกต์ไฟช็อตบนตัวศัตรูในขอบเขต จากนั้นจะทำ DMG ใส่ศัตรูและทำให้ลอยชั่วครู่

 

[Storm]

- เสกพายุขึ้นมา

- พายุนี้จะติดตามซัมมอนเนอร์ที่อยู่ใกล้ๆ

- พายุจะทำ DMG แบบตายตัวตามสัดส่วน HP สูงสุดของเป้าหมายใส่ศัตรูที่โดนมัน และทำให้ศัตรูถูกไฟช็อต

- พายุจะหายไปเมื่อครบเวลาที่กำหนด

 

[Origin Destroyer - Divine Punishment]

- บินขึ้นกลางอากาศเพื่อใช้การลงทัณฑ์จากสวรรค์ใส่ซัมมอนเนอร์ฝ่ายศัตรูอย่างต่อเนื่อง

- ศัตรูที่โดนการลงทัณฑ์จากสวรรค์จะได้รับ DMG ตามระดับของไฟช็อตบนตัวและจะมึนงง

- การโจมตีนี้สามารถโจมตีต้นกำเนิดแห่งไฟ น้ำ และลม และสามารถทำลายต้นกำเนิดแห่งน้ำได้

 

4. แพทเทิร์นพื้นฐานในจู่โจม: ต้นไม้แห่งวีรชน

※ แพทเทิร์นด้านล่างนี้คือตัวอย่างที่เรียงลำดับตามการเปลี่ยนธาตุของบอสจากธาตุลม -> ไฟ -> น้ำ

เริ่มการต่อสู้ ▶ เปลี่ยนธาตุ (ลม) ▶ Storm ▶ Waterspout ▶ Origin Destroyer - Divine Punishment ▶ HP ลดลงจำนวนหนึ่ง + ทำลายต้นกำเนิดธาตุน้ำ

▶ เปลี่ยนธาตุ (ไฟ) ▶ Stormy Blast ▶ Inferno ▶ Origin Destroyer - Mortality ▶ HP ลดลงจำนวนหนึ่ง + ทำลายต้นกำเนิดธาตุลม

▶ เปลี่ยนธาตุ (น้ำ) ▶ Absorb ▶ Recharge ▶ Shockwave ▶ Origin Destroyer - Blue Hole ▶ HP ลดลงจำนวนหนึ่ง + ทำลายต้นกำเนิดธาตุไฟ

▶พอร์ทัล 3 จุดปรากฏขึ้น ▶ กำจัดบอสกลาง ▶ เปลี่ยนธาตุ (ไร้ธาตุ) ▶ วนซ้ำแพทเทิร์นก่อนหน้า

 

5. คำแนะนำจาก CM เซเรน่า

[สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเข้าเล่นจู่โจม]

#1 รู้ข้อมูลเบื้องต้นของต้นไม้แห่งวีรชนและอัปเกรดมอนสเตอร์ที่จำเป็น

- คุณต้องมีพลังต่อสู้ 502,900 ขึ้นไป จึงจะสามารถเคลียร์ได้อย่างราบรื่น

- การเตรียมมอนสเตอร์ประเภทดีลเลอร์แต่ละธาตุไว้มีส่วนสำคัญมากในการเล่นต้นไม้แห่งวีรชน

- มอนสเตอร์ประเภทฮีลเลอร์ต้องมีเอฟเฟกต์ปลดเอฟเฟกต์ลดพลัง ปลด DMG ต่อเนื่อง และภูมิคุ้มกัน

- ดันเจี้ยนนี้จะต่างกับจู่โจมที่ผ่าน ๆ มา คุณต้องเปลี่ยนตัวมอนสเตอร์ที่เหมาะสมตามธาตุ

- ตอนที่บอสเป็นธาตุไฟ คุณต้องใช้มอนสเตอร์ที่มีเอฟเฟกต์ลดความต้านทาน CRI หรือเพิ่ม DMG ที่ได้รับ 

และในตอนที่บอสเป็นธาตุน้ำ คุณต้องใช้มอนสเตอร์ที่มีเอฟเฟกต์ฟื้นฟูไม่ได้

- ในตอนที่บอสไร้ธาตุ คุณจำเป็นต้องใช้มอนสเตอร์ข้างต้นทั้ง 2 แบบ จึงควรปรึกษาการจัดทีมมอนสเตอร์กับสมาชิกทีมคนอื่น

- ด้านล่างนี้คือมอนสเตอร์ที่ใช้เป็นหลักในการเล่นจู่โจม: ต้นไม้แห่งวีรชน

 

※ มอนสเตอร์แนะนำ

 

● ดีลเลอร์แต่ละธาตุ

- คุณต้องเตรียมมอนสเตอร์ดีลเลอร์แต่ละธาตุไว้ธาตุละตัวเมื่อเล่นจู่โจม: ต้นไม้แห่งวีรชน

[ลม]

- แวมไพร์ (ลม) 5★

- อีฟริท (ลม) 5★ 

- ราชินีน้ำแข็ง (ลม) 5★

 

[น้ำ]

- นักธนูเวท (น้ำ) 5★

- ฮานาริน (น้ำ) 5★ 

- นักล่าแวมไพร์ (น้ำ) 5★

 

[ไฟ]

- อีฟริท (ไฟ) 5★

- จิ้งจอกเก้าหาง (ไฟ) 5★

- เจนอส (ไฟ) 5★

- ราชินีน้ำแข็ง (ไฟ) 5★

* หากเป็นมอนสเตอร์ตัวอื่นที่ได้เปรียบธาตุบอส ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

● ฮีลเลอร์

- คุณต้องมีมอนสเตอร์ที่มีเอฟเฟกต์ปลดเอฟเฟกต์ลดพลัง ปลด DMG ต่อเนื่อง และภูมิคุ้มกัน

- สาวน้อยเวทมนตร์ (น้ำ) 5★ - มีสกิลที่ปลดเอฟเฟกต์ลดพลังและฟื้นฟูให้ได้ทันที

- ทูตสวรรค์ (น้ำ) 5★

- ผู้บุกเบิก (น้ำ) 5★

- นักพยากรณ์ (ไฟ) 5★

- ผีน้อย (น้ำ) 4★

- ผีน้อย (แสง) 4★

* สามารถใช้มอนสเตอร์ที่มีสกิลปลดเอฟเฟกต์ลดพลัง ปลด DMG ต่อเนื่อง และภูมิคุ้มกันตัวอื่นแทนได้

 

● สนับสนุน

- คุณต้องมีมอนสเตอร์ที่มีเอฟเฟกต์ลดความต้านทาน CRI ฟื้นฟูไม่ได้ และเพิ่ม DMG ที่ได้รับ

- แวมไพร์ (ไฟ) 5★ - มีสกิลลดความต้านทาน CRI

- จ้าวมนตราฮาร์ป (แสง) 5★ - มีสกิลฟื้นฟูไม่ได้และเพิ่ม DMG ที่ได้รับ

- นางเงือก (ไฟ) 5★ - มีสกิลฟื้นฟูไม่ได้

- ผู้บุกเบิก (ลม) 5★ - มีสกิลเพิ่ม DMG ที่ได้รับ

* สามารถใช้มอนสเตอร์ที่มีสกิลลดความต้านทาน CRI ฟื้นฟูไม่ได้ และเพิ่ม DMG ที่ได้รับตัวอื่นแทนได้

 

#2. ในการเล่นต้นไม้แห่งวีรชนคุณต้องคอยสลับมอนสเตอร์แต่ละธาตุ และใช้สกิลที่เสกบัฟ/ดีบัฟอยู่ตลอด

อย่าลืมอัปเลเวลสกิลเสริมอย่าง [Change of Plan] ที่ช่วยลดค่ามานาเมื่อเปลี่ยนตัวมอนสเตอร์ 
และ [Bond Enhancement] ที่ช่วยลดเวลาคูลดาวน์การเปลี่ยนมอนสเตอร์ผูกพันธะจิตไว้ให้ถึงเลเวลสูงสุดล่ะ!

 

[เช็คลิสต์การต่อสู้จู่โจม]

① ก่อนเข้าเล่นจู่โจม คุณต้องเช็คดูว่ามอนสเตอร์ของสมาชิกปาร์ตี้มีสกิลฟื้นฟูไม่ได้และลดความต้านทาน CRI หรือยัง

* หากสมาชิกปาร์ตี้ 3 คนมีมอนสเตอร์ที่มีเอฟเฟกต์ดังกล่าวในทีม ปาร์ตี้ของคุณอาจทำ DMG ได้ไม่พอ และจำเป็นต้องจัดทีมกันใหม่

ตัวอย่าง) จัดให้สมาชิกทีม 1 คนมีมอนสเตอร์ซึ่งมีสกิลฟื้นฟูไม่ได้ อีก 1 คนมีมอนสเตอร์ซึ่งมีสกิลลดความต้านทาน CRI และคนที่เหลือเป็นดีลเลอร์เป็นหลัก

 

② หลังจากเข้าสู่ดันเจี้ยนและย้ายมาอยู่ตรงกลางแผนที่ ฟาราเคลจะเปลี่ยนธาตุ

ถึงตอนนี้คุณค่อยเปลี่ยนมอนสเตอร์เป็นธาตุที่ได้เปรียบบอส
ตัวอย่าง) หากฟาราเคลเปลี่ยนเป็นธาตุลม ให้เปลี่ยนเป็นมอนสเตอร์ธาตุไฟ 

 

③ ฟาราเคลจะต่างจากบอสตัวอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ การลด HP ของมันเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถพาคุณผ่านไปยังขั้นถัดไปได้ แต่ต้องทำลายต้นกำเนิดธาตุที่เสียเปรียบธาตุของบอสด้วย จึงจะสามารถไปต่อได้

* หากไปทำลายต้นกำเนิดธาตุอื่นเข้า จะโดน DMG เพิ่มเติม

 

ดังนั้นคุณต้องจำไว้ว่าสกิลไหนที่สามารถทำลายต้นกำเนิดแต่ละธาตุได้ และใช้สกิลนั้นทำลายต้นกำเนิดธาตุซะ

 

* ในกรณีที่บอสเป็นธาตุไฟ ต้องให้บอสใช้สกิล Origin Destroyer - Mortality ทำลายต้นกำเนิดธาตุลม

* ในกรณีที่บอสเป็นธาตุน้ำ ต้องให้บอสใช้สกิล Origin Destroyer - Blue Hole ทำลายต้นกำเนิดธาตุไฟ

* ในกรณีที่บอสเป็นธาตุลม ต้องให้บอสใช้สกิล Origin Destroyer - Divine Punishment ทำลายต้นกำเนิดธาตุน้ำ

 

④ ฟาราเคลจะใช้สกิลตามธาตุที่แตกต่างกันไปตามธาตุของมัน ดังนั้นหากคุณจำได้ก็จะเป็นการดีที่สุด

แต่การทำความคุ้นเคยกับแพทเทิร์นหลัก ๆ ของบอสแต่ละธาตุก็สำคัญไม่แพ้กัน

* ธาตุไฟ - มีสกิลติดตัวที่ช่วยเพิ่มความต้านทาน CRI

คุณต้องคอยเสกเอฟเฟกต์ลดความต้านทาน CRI หรือเพิ่ม DMG ที่ได้รับใส่บอสอยู่เป็นระยะ

บอสจะใช้สกิล Stormy Blast ในขอบเขตรูปครึ่งวงกลม 1 ครั้ง และใช้สกิล Inferno พุ่งใส่เป้าหมายในแนวตรง 3-4 ครั้ง

* ธาตุน้ำ - มีสกิลติดตัวที่ช่วยดูด DMG คุณจึงต้องคอยเสกเอฟเฟกต์ฟื้นฟูไม่ได้ใส่บอสอยู่เป็นระยะ

สกิล Absorb/Recharge จะสามารถแยกได้ด้วยม่านพลังสีแดง/สีฟ้าที่ห่อหุ้มบอสไว้ 

เมื่อม่านพลังเป็นสีแดง อย่าโจมตีใส้มัน แต่เมื่อม่านพลังเป็นสีฟ้า คุณต้องทำ DMG ใส่มันให้ได้มากที่สุด

สกิล Shockwave จะแสดงให้คุณเห็นถึงขอบเขตการทำ DMG ล่วงหน้าทั้ง 3 อัน คุณต้องคอยหลบให้ตรงตามลำดับเหล่านั้น

* ธาตุลม - สกิล Storm จะก่อพายุที่ไล่ตามซัมมอนเนอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด

หากกลายเป็นเป้าหมายของพายุนั้น คุณต้องแยกตัวออกไปให้ห่างจากสมาชิกปาร์ตี้เพื่อลากพายุให้ตามไปด้วย

 

⑤ หลังจากผ่านแพทเทิร์นแต่ละธาตุไปแล้ว จะมีพอร์ทัลปรากฏขึ้นมา 3 จุด

พอร์ทัลแต่ละจุดจะมีอีฟริท (ไฟ) พราย (น้ำ) และซิลฟ์ (ลม) ที่เป็นบอสกลางอยู่

 

ให้สมาชิกปาร์ตี้ทั้ง 3 คนแยกกันไปจัดการบอสกลางที่พอร์ทัลแต่ละอัน

หากกำจัดส่วนของตนได้แล้ว ก็สามารถไปช่วยสมาชิกทีมของคุณที่ประจำอยู่ที่พอร์ทัลอื่นได้

* ในกรณีของพราย (น้ำ) มันจะใช้เอฟเฟกต์ปกป้องวิญญาณและภูมิคุ้มกัน หากใช้มอนสเตอร์ที่มีเอฟเฟกต์ขโมยหรือบล็อกเอฟเฟกต์เสริมพลัง จะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

 

⑥ หลังจากนั้นฟาราเคลจะเปลี่ยนไปเป็นบอสไร้ธาตุ มันจะใช้สกิลของทุกธาตุที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ทำ DMG ที่รุนแรงขึ้น

 

เนื่องจากฟาราเคลจะมีเอฟเฟกต์จากสกิลติดตัวของธาตุไฟ/น้ำอย่างเพิ่มความต้านทาน CRI และดูด DMG ด้วย

จึงต้องคอยเสกเอฟเฟกต์ฟื้นฟูไม่ได้ ลดความต้านทาน CRI และเพิ่ม DMG ที่ได้รับใส่มันอยู่เป็นระยะ


 


 

และนี่ก็คือคำแนะนำการเคลียร์ต้นไม้แห่งวีรชนค่ะ

 

หวังว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้ทุกคนเคลียร์ต้นไม้แห่งวีรชนได้ และได้รับอุปกรณ์เซ็ตฮีโร่ยามสิ้นแสง และวัตถุดิบสร้างอุปกรณ์มาใช้อัปเกรดกันนะคะ

 

เราจะพยายามนำเนื้อหาที่เป็นประโยชน์แก่ทุกท่านมาแชร์ให้อีกเรื่อย ๆ แน่นอนค่ะ!

 

ขอบคุณค่ะ

หน้าต่างตัวอย่างข้อความตั้งต้น

แปล

เลือกภาษาที่ต้องการแปล

เลือกภาษาที่ต้องการแปล